ฝากขัง ไฮโซทะเล พร้อมพวก ข้อหาปล้นทรัพย์นักธุรกิจสิงคโปร์

ฝากขัง ไฮโซทะเล พร้อมพวก ข้อหาปล้นทรัพย์นักธุรกิจสิงคโปร์

ไฮโซทะเล ถูก ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก พร้อมพวก ข้อหาปล้นทรัพย์นักธุรกิจสิงคโปร์ วันนี้ (11 ก.ค.65) พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้ควบคุมตัว นายธฤต หรือ “ไฮโซทะเล” และ นายเพชร 2 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ไปขออำนาจศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรกเป็นระยะเวลา 12 วัน หลังจาก ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้งสอง ถูกกลาวหาว่าได้ร่วมกันปล้นทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยว นายยาง ฮุย นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ โดยเหตุเกิดที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านเหม่งจ๋ายซึ่งในรายงานระบุด้วยว่า ไฮโซทะเลกับพวกรวม 7 คน ร่วมกันปล้นรถยนต์ปอร์เช่ รุ่นคาร์เยน 1 คัน เงินสดและทรัพย์สินกว่า 4.5 ล้านบาท

สำหรับคดีดังกล่าว ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์กับทั้งไฮโซทะเลและ ไฮโซเพชร 

ก่อนที่ช่วงบ่ายของวันนี้ พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังพร้อมกับ คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอัตราโทษสูง อีกทั้งยังมีผู้ก่อเหตุอีก 5 คนที่ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว โดยระหว่างที่พนักงานสอบสวนควบคุมตัวทั้งสองคนออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา ไปขึ้นรถผู้ต้องหา ซึ่งจอดอยู่บริเวณถนนด้านหลังทั้งสองคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ไฮโซเพชรพูดเพียงสั้นๆว่า “อยากขอให้ผู้เสียหายออกมาพูดความจริง” ก่อนขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาออกไปทันที

ทั้งนี้ มีรายงานว่า 1 ใน 5 คนที่เหลือ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่คาดว่าร่วมกันลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ ได้ติดต่อเพื่อเข้าพบกับพนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวาง แล้วในช่วงบ่ายที่ผ่านมา

มือปืนบุก ปล้นทองพัฒนาการ มาไม้ใหม่สั่งพนักงานนับ 1 ถึง 10 หลอกคนนอก ไม่ให้รู้ว่าปล้นทอง ก่อนกวาดทองหนีลอยนวล เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านพัฒนาการ ถนนพัฒนาการ แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กทม. ที่จับเหตุ ปล้นทองพัฒนาการ พร้อมกับข้อความกำกับระบุว่า “ไม่น่ารอดไม่เกินฝีมือเจ้าหน้าที่ตำรวจหรอก ตำรวจเจ้าของพื้นที่จัดการจับมาแถลงข่าวเลย..พวกปล้นร้านทองไม่รอดสักราย”

เหตุปล้นทองพัฒนาการเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม เมื่อเวลาประมาณ 19.5 น. ปัจจุบันยังไม่สามารถจับกุมตัวมือปืนได้ โดยคนร้ายได้กวาดสร้อยคอมือ 1 บาท จำนวน 27 เส้น สร้อยคอ 3 บาท 6 เส้น มูลค่รวมราคาประมาณ 1,500,000 บาท

ในวันเกิดเหตุนั้น คนร้ายวัยประมาณ 20 ปี ผิวคล้ำ ผอมสูงราวๆ 175 เซนติเมตรได้เดินทางเข้าที่ร้านทอง ยกมือขึ้นมาโดยมีผ้าพันที่บริเวณมือดูเหมือนถืออาวุธปืนซ่อนเอาไว้ข่มขู่พนักงานที่อยู่ในร้านทอง

ข่มขู่ให้พนักงานนำทองรูปพรรณใส่ไปในกระเป๋าที่คนร้ายนำติดตัวมาด้วย จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไปโดยวิ่งออกจากห้างขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ zoomer x สีขาวไม่ทราบทะเบียนหลบหนีไปทางถนนพัฒนาการขาออก

ขณะที่ผู้สื่อข่าวจากช่อง 7 ได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์ นายชอบใจ เศรษฐวัชราวนิช เจ้าของร้าน โดยทางเจ้าของร้านให้สัมภาษณ์ว่า คนร้ายมาตอนประมาณ 19.30 น. ช่วงนั้นใกล้จะปิดร้านแล้ว คนร้านเดินไปวนหน้าร้านแล้วก็เดินกลับมาที่ร้าน

คนร้ายใช้อาวุธคล้ายปืนมาจี้พนักงานหญิง 3 คน แล้วให้หยิบทองให้ ระหว่างหยิบทองให้ คนร้ายบังคับให้พนักงานตะโกนนับ 1-10 เสียงดังๆ คนข้างนอกก็มองนึกว่าคนในร้านทะเลาะอะไรกัน แต่ช่วงนั้นมีคนมาใช้บริการน้อย เพราะฝนตก จากนั้นคนร้านก็บอกว่า พอ แล้วก็หอบเอาทองหนีไป

ญาติวอนตำรวจ ช่วยเหลือ ครูแดนสอนคิวบู๊ หลังถูกจับเป็นตัวประกันที่เมียนมา

ญาติและเพื่อนได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอให้ช่วยเหลือ ครูแดนสอนคิวบู๊ หรือ ครูแดนนี่ หลังถูกจับเป็นตัวประกันที่เมียนมา จ่าบอย (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของ นายระม้าย โมริพันธ์ หรือ ครูแดน ครูสอนคิวบู๊ชื่อดัง พร้อมด้วย คุณแม่ครูแดน ได้เดินทางมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่ ครูแดนถูกล่อลวงและจับเป็นตัวประกันที่ประเทศเมียนมาตั้งแต่ปี 65 ที่ผ่านมา

เพื่อนสนิทของครูแดนเล่าว่า ครูแดนนี่ เขียนจดหมายด้วยลายมือขอความช่วยเหลือมาถึงแม่เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเนื้อหาของจดหมายคร่าวๆระบุว่า ตนถูกจับที่ประเทศเมียนมา ไปตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. หลังเดินทางไปหาแฟน และเพื่อนสนิทชื่อนายเอ (นามสมมติ) ที่ประเทศลาว และนายเอ (นามสมมติ) แนะนำให้รู้จักกับนายชัย ซึ่งอยู่ที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา อ้างว่าจะช่วยพาไปหานายทุนทำหนังให้

ครูแดน จึงเดินทางไปหานายชัย ท่าขี้เหล็ก แล้วอยู่ที่ท่าขี้เหล็กซักระยะ แต่ไม่มีงาน รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอก เลยขอเดินทางกลับ ผลปรากฎว่านายชัย บอกว่าจะพาไปหานายทุนอีกเจ้า และพาครูแดน ไปถึงบ้านหลังหนึ่งในเขตว้าแดง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ทว่าเมื่อถึงบ้านหลังนี้ก็ถูกจับกุมตัว โดยไม่ได้มีการแจ้งข้อหา

นายเอ ได้ติดต่อมาหาครูแดน บอกว่าเรื่องทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับครูแดนนี่เลย แต่เนื่องจากตนเองและนายชัย นำเงินนายทุนไปหมุนซื้อยาเสพติด 24 ล้านบาท แต่ไม่สามารถหามาคืนได้ จึงต้องนำตัวครูแดนนี่ ซึ่งมีชื่อเสียงไปค้ำประกันไว้ก่อน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป